ทหาร-ตร.ติดตามความเคลื่อนไหวนักกิจกรรมในเชียงใหม่ ช่วงระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่

27 เม.ย.59 เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ติดตามเฝ้าระวังนักกิจกรรม-นักศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงระหว่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการ โดยเท่าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับรายงานมีการพยายามโทรศัพท์สอบถามและติดตามสอดส่องความเคลื่อนไหวของนักกิจกรรมหลายราย แต่ยังไม่มีรายงานการเรียกพบหรือเดินทางไปที่บ้านในลักษณะเดียวกับช่วงประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่เชียงใหม่เมื่อปีที่แล้ว อ่านเพิ่มเติม

ฝากขังครั้งที่ 4 หนุ่มเชียงใหม่ปลอมเฟซบุ๊กโพสต์หมิ่น แม้ทนายค้านการสอบสวนไม่เกี่ยวข้องกับ ผตห.แล้ว

28 ม.ค.59 พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)ยื่นคำร้องต่อศาลทหารกุรงเทพ เพื่อขอฝากขัง วิชัย (ขอสงวนนามสกุล) เป็นครั้งที่ 4 ในคดีที่ วิชัย หนุ่มเชียงใหม่วัย 33 ปี ถูกกล่าวหาว่าปลอมบัญชีเฟซบุ๊ก แล้วโพสต์และแชร์คลิปวีดิโอ ภาพ และข้อความที่มีเนื้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยพนักงานสอบสวนอ้างเหตุผลว่า สำนวนคดีอยู่ในระหว่างการเสนอเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อ่านเพิ่มเติม

พีมูฟจัด “เดิน ก้าว แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย” ท่ามกลางทหาร-ตำรวจจับตา

22 ธ.ค.58 เครือข่ายขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-Move จัดกิจกรรม “เดิน: ก้าว: แลก เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย” เพื่อผลักดันการแก้ไขปัญหาที่ดินในประเด็นปัญหาต่างๆ ทั้งปัญหาธนาคารที่ดินที่ยังไม่เป็นรูปธรรม ปัญหาโฉนดชุมชน ปัญหานโยบายแผนแม่บทป่าไม้ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ยากไร้ทั่วประเทศ รวมทั้งปัญหาการประกาศเขตอุทยานฯ เพิ่มเติมหลายแห่ง โดยไม่มีการกันพื้นที่ของชุมชนออกก่อน เป็นต้น

กิจกรรมมีการรวมตัวกันที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 9.00 น. โดยมีชาวบ้านที่เข้าร่วมกิจกรรมราว 100 คน ก่อนจะมีการร่วมกันเดินเท้ามุ่งหน้าสู่จังหวัดลำพูน เพื่อไปร่วมรับฟังการอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีที่ดินลำพูนที่ศาลจังหวัดลำพูนในวันเช้าพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) โดยเป้าหมายจะมีตัวแทนเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องรัฐบาลผลักดันการปฏิรูปที่ดินต่อไป อ่านเพิ่มเติม

เครือข่ายคณาจารย์ฯเข้ารับทราบข้อกล่าวหา แถลงยืนยันมหาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร

24 พ.ย.58 เวลา 15.00 น. ที่สถานตำรวจภูธรช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ นักวิชาการในนามเครือข่ายคณาจารย์มหาวิทยาลัย ซึ่งถูกออกหมายเรียกในข้อหาร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่งหัวหน้าคสช. จากกรณีร่วมกันแถลงข่าว “มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร” ที่โรงแรมไอบิส จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.58 ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก (ดูรายงานข่าวก่อนหน้านี้)

ทางเครือข่ายคณาจารย์ที่ได้รับหมายเรียก มีจำนวน 5 ราย ประกอบไปด้วยอรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ และสมชาย ปรีชาศิลปกุล จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, จรูญ หยูทอง และณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ จากมหาวิทยาลัยทักษิณ, มานะ นาคำ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น

IMG_6988

เมื่อเดินทางไปถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดยพ.ต.ท.มณฑป แสงจำนง รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้นำคณาจารย์ขึ้นไปยังห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการสภ.ช้างเผือก โดยมี พ.ต.อ.วชิระ กาญจนวิภาดา ผกก.สภ.ช้างเผือก พร้อมชุดพนักงานสอบสวนร่วมดำเนินการ

เจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ์ของผู้ต้องหา โดยระบุว่าในคดีนี้ทาง พล.ต.โกศล ประทุมชาติ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เป็นผู้มอบอำนาจให้ พ.ท.อภิชาต กันทวงศ์ นายทหารพระธรรมนูญ มาเป็นผู้แจ้งความกล่าวโทษนักวิชาการที่ร่วมกันแถลงข่าวและแจกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 31 ต.ค.58 ในความผิดตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 5/2558 ข้อ 12 ประกอบข้อ 3 (4)

พนักงานสอบสวนยังได้สอบถามถึงนักวิชาการท่านอื่นที่ร่วมแถลงข่าวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารไม่ทราบชื่อ จึงยังไม่ได้มีการออกหมายเรียกมาด้วย แต่ถือว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหาจากเจ้าหน้าที่ทหาร เพราะมีการกล่าวหาบุคคลที่อยู่ในรูปภาพทั้งหมด จำนวน 8 คน

อาจารย์บุญเชิด หนูอิ่ม จากมหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งเดินทางมายังสภ.ช้างเผือกด้วย แต่ยังไม่ได้ถูกออกหมายเรียก จึงได้เข้าพบพนักงานสอบสวนร่วมกับเครือข่ายคณาจารย์ฯ ส่วนอาจารย์ที่ร่วมกันแถลงข่าวอีก 2 ท่าน และยังไม่ได้เดินทางมาด้วยในวันนี้ ทางคณาจารย์ระบุว่าจะมีการติดต่อประสานงานเพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนต่อไป

กลุ่มนักวิชาการได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนคำให้การโดยรายละเอียดจะมีการจัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรมายื่นต่อพนักงานสอบสวนภายใน 30 วัน โดยพนักงานสอบสวนให้ผู้ต้องหาพิมพ์ลายนิ้วมือ จัดทำบันทึกการมอบตัว บันทึกคำให้การ และบันทึกประจำวัน

พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวชั่วคราวนักวิชาการทั้ง 6 คน โดยไม่ต้องทำการประกันตัว และไม่มีการกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวใดๆ แต่ได้ระบุให้ในกรณีที่ผู้ต้องหาจะเดินทางออกนอกประเทศ ขอให้มีการแจ้งเป็นลายลักษณ์มาให้ทราบด้วย แต่ไม่ได้มีการห้ามเดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด โดยภายหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะมีการสอบสวนและจัดทำสำนวนเพิ่มเติมต่อไป

ในเวลา 16.40 ทางเครือข่ายคณาจารย์มหาวิทยาลัยได้เดินทางออกมาภายนอกสภ.ช้างเผือก  และมีการอ่านแถลงการณ์ ยืนยันว่า “มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร” ร่วมกัน โดยมีเพื่อนอาจารย์ นักศึกษา และประชาชนที่สนใจร่วมให้กำลังใจราว 50 คน

IMG_7018

แถลงการณ์ระบุยืนยันว่าการแถลงการณ์มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหารไม่ใช่การกระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่เป็นการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นในประเด็นปัญหาของการจัดการศึกษาอันเป็นภาระหน้าที่โดยตรงของบุคลากรมหาวิทยาลัย

แถลงการณ์ยืนยันว่าเสรีภาพในการแสดงความเห็นเป็นหลักการพื้นฐานที่สำคัญในการดำรงอยู่ร่วมกันของคนทุกกลุ่มในสังคม ทั้งถือเป็นปรากฏการณ์ปกติที่ทุกสังคมย่อมจะมีความเห็นที่แตกต่างกันไปในประเด็นปัญหาต่าง ทั้งเสรีภาพในการแสดงความเห็นไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะพื้นที่มหาวิทยาลัย พลเมืองทุกคนในสังคมก็ย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความเห็นด้วยเช่นกัน โดยการคุกคามหรือปิดกั้นเสรีภาพของบุคคลใดๆ เป็นเพียงการกดทับปัญหาเอาไว้ มิได้ช่วยให้เกิดการแก้ไขปัญหา ตลอดจนความขัดแย้งในสังคมอย่างแท้จริง

ทางเครือข่ายคณาจารย์ฯ จึงยืนยันว่าไม่ใช่แต่เฉพาะมหาวิทยาลัยที่ไม่ใช่ค่ายทหาร แต่สังคมไทยก็มิใช่ค่ายทหารเช่นเดียวกัน เสรีภาพในการแสดงความเห็นของทุกคนและทุกฝ่ายจึงต้องได้รับการปกป้องอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน

ทั้งนี้ในคดีนี้ หากพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องคดี ในความผิดตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558 ถูกกำหนดให้ต้องขึ้นศาลทหาร และต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

5 นักวิชาการเตรียมเข้าพบพนง.สอบสวนสภ.ช้างเผือกพรุ่งนี้ 15.00 น.

23 พ.ย.58 จากกรณีที่นักวิชาการในนามเครือข่ายคณาจารย์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันแถลงข่าว “มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร” ที่โรงแรมไอบิส จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.58 ก่อนจะได้รับหมายเรียกจากสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ ในข้อหาร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่งหัวหน้าคสช. ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา (ดูรายงานก่อนหน้านี้)

ล่าสุด รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล ระบุว่าส่วนของตนยังไม่ได้รับหมายเรียกดังกล่าว แต่ทางเพื่อนอาจารย์ก็ได้รับหมายเรียกแล้วบางส่วน ทางเครือข่ายคณาจารย์มหาวิทยาลัยจึงได้ตกลงนัดหมายเข้าพบพนักงานสอบสวนพร้อมกัน ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือกในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) เวลา 15.00 น. เหตุที่ขอนัดในเวลาดังกล่าว เนื่องจากไม่สะดวกในเวลา 9.00 น. ตามหมายเรียกของเจ้าหน้าที่

จากการสอบถามไปยัง ว่าที่พ.ต.อ.ประยูร กาศทิพย์ พนักงานสอบสวนสภ.ช้างเผือก ระบุว่าพ.ท.อภิชาต กันทะวงศ์ เจ้าหน้าที่ทหารผู้รับมอบอำนาจ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อคณาจารย์กลุ่มดังกล่าวภายหลังการแถลงข่าวหัวข้อ “มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร” ไม่กี่วัน คือราวช่วงวันที่ 3 พ.ย. ต่อมาในวันที่ 11 พ.ย. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกหมายเรียกนักวิชาการจำนวน 6 คน ประกอบไปด้วย

  1. อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ อาจารย์สาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  2. สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  3. จรูญ หยูทอง นักวิชาการสถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ
  4. ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
  5. มานะ นาคำ อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  6. คงกฤช ไตรยวงค์ อาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

ว่าที่พ.ต.อ.ประยูร กล่าวด้วยว่ากรณีของนายคงกฤช ไตรยวงค์ ซึ่งระบุว่าไม่ได้อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่มีการแถลงข่าว แต่กลับถูกออกหมายเรียกด้วยนั้น เป็นการเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ทหารที่มาแจ้งความ นายคงกฤชจึงไม่ต้องเดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนแล้ว

ส่วนในวันพรุ่งนี้ พนักงานสอบสวนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนเบื้องต้น แต่ยังไม่ได้มีการควบคุมตัวหรือต้องยื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ข้อกล่าวหาดังกล่าวระบุอยู่ในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2558 ข้อ 12 บัญญัติว่า “ผู้ใดมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใด ๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เว้นแต่เป็นการชุมนุมที่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย”