นัดตรวจพยานหลักฐานคดีนักข่าวฮ่องกงครอบครองเสื้อเกราะ

ศาลจังหวัดสมุทรปราการสอบคำให้การนายควาน ฮอก จุน และตรวจพยานหลักฐาน จำเลยให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา  ศาลกำหนดวันนัดสืบพยานรวม 4 นัด

วันนี้(16 พ.ย.59)เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดสุมทรปราการได้นัดตรวจพยานหลักฐานคดีนายควาน ฮอก จุน โดยพนักงานอัยการโจทก์แถลงสืบพยานบุคคล 8 ปากและขออ้างเอกสาร จำนวน 4 ฉบับ คือบันทึกการจับกุม บัญชีของกลางคดีอาญา บันทึกข้อความและหนังสือการตรวจสอบการขออนุญาตให้มียุทธภัณฑ์ ด้านทนายความจำเลยแถลงสืบพยานบุคคล 7 ปาก และขออ้างเอกสาร จำนวน 17 ฉบับ ศาลจึงกำหนดวันนัดสืบพยานทั้งหมด 4 นัด คือ นัดสืบพยานโจทก์วันที่ 5 เม.ย. และ 7 เม.ย 59 และนัดสืบพยานจำเลยวันที่ 8 เม.ย.และ 12 เม.ย.59

ทั้งนี้จำเลยแถลงแนวทางการต่อสู้คดีต่อศาลว่า จำเลยประกอบอาชีพเป็นนักข่าวที่เข้ามาทำข่าวเหตุการณ์ความรุนแรงในกรุงเทพมหานครในช่วงเกิดเหตุ โดยที่ผ่านมามีนักข่าวต่างประเทศเคยถูกยิงเสียชีวิต จำเลยจึงจำเป็นต้องมีเสื้อเกราะเพื่อความปลอดภัย และประสงค์จะต่อสู้ในเรื่องเจตนาในการครอบครองเสื้อเกราะ

จำเลยได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักรและขอหนังสือเดินทางคืน โดยศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยออกนอกราชอาณาจักรและคืนหนังสือเดินทางชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขต้องมาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ แต่เนื่องจากวันนัดสืบเว้นช่วงนานศาลจึงสั่งให้จำเลยวางหลักประกันเป็นเงินสดเพิ่ม 50,000 บาท จากจำนวนหลักประกันเดิมที่วางต่อศาลไว้ 100,000 บาท รวมเป็นหลักประกันทั้งหมด 150,000 บาท

นอกจากนี้จำเลยยังได้ยื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุดขอให้ถอนฟ้องคดีดังกล่าวในวันที่ 10 พ.ย.58 ที่ผ่านมา เนื่องจากการฟ้องคดีนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการพ.ศ.2553 และระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการสั่งคดีอาญาที่จะไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน

คดีนี้นายควาน ฮอก จุน นักข่าวฮ่องกง นักข่าวประจำสำนักข่าวดิ อินนิเชี่ยม มีเดีย ฮ่องกง (The Initium Media Hongkong) ถูกฟ้องเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2558  ในฐานความผิดตามพรบ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 มาตรา 4, 5, 6, 7, 15, 34, 42 ประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงวันที่ 30 พ.ย. 2550 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32 และ 33 โดยพนักงานอัยการขอให้ศาลสั่งริบเสื้อเกราะป้องกันกระสุนของกลาง ภายหลังจากนายควาน ฮอก จุนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อทำข่าวระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 58 โดยทางสำนักข่าวได้มอบเสื้อเกราะซึ่งมีคำว่า PRESS ให้เขาไว้ใช้เพื่อความปลอดภัย แต่เขากลับถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 58 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยเหตุที่มีเสื้อเกราะดังกล่าวไว้ในครอบครอง ขณะกำลังจะเดินทางกลับประเทศฮ่องกง

ทนายขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดคดีช่างภาพฮ่องกงมีเสื้อเกราะ เหตุแค่ใช้ป้องกันตัวไม่กระทบความมั่นคง

วันนี้ทนายความผู้รับผิดชอบคดีของช่างภาพข่าวชาวฮ่องกง ซึ่งถูกดำเนินคดีจากการนำเสื้อเกราะกันกระสุนผ่านด่าน ตม. สนามบิน ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาและมีคำสั่งถอนฟ้อง เหตุแค่ใช้ป้องกันตัวไม่มีเจตนานำมาใช้เพื่อการสงครามและไม่กระทบความมั่นคงของประเทศ

นายควาน ฮอก จุน หลังถูกควบคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ (ภาพโดยสำนักข่าว AP)

10พ.ย.2558เวลา 10.30น. ทนายความของนายควาน ฮอก จุน(Kwan Hok-chun) ช่างภาพข่าวจากสำนักข่าว ดิ อินนิเชี่ยม มีเดีย ฮ่องกง (The Initium Media Hongkong) ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาและมีคำสั่งถอนฟ้องในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 6298/2558 ข้อหามียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 เนื่องจากจำเลยไม่มีเจตนากระทำผิดกฎหมายในประเทศไทยและการที่จำเลยมีเสื้อเกราะกันกระสุนนั้นก็เพื่อใช้สำหรับป้องกันและรักษาความปลอดภัยเท่านั้น ไม่มีเจตนาจะนำมาใช้เพื่อการสงครามหรือเพื่อกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยแต่อย่างใด ซึ่งการฟ้องคดีนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการพ.ศ.2553 และระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการสั่งคดีอาญาที่จะไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายรับเรื่องร้องขอความเป็นธรรมแจ้งว่า อัยการสูงสุดจะต้องส่งเรื่องให้กับสำนักงานอัยการภาค 1 ให้ประสานสำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการสรุปสำนวนและทำความเห็น มาตามลำดับขั้น เพื่ออัยการสูงสุดจะมีความเห็นต่อไป โดยจะทำคำสั่งมาเป็นหนังสือ ถึงทนายความเพื่อทราบต่อไป

คดีนี้สืบเนื่องจากนายควานได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อทำข่าวกรณีระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2558 และทางสำนักข่าวได้มอบเสื้อเกราะซึ่งมีคำว่า “PRESS” จำนวน 1 ตัว ให้ใช้เพื่อความปลอดภัย แต่เขากลับถูกควบคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ขณะกำลังจะเดินทางกลับประเทศ ด้วยเหตุที่มีเสื้อเกราะไว้ในครอบครอง โดยนายควานได้ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน ซึ่งศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ต่อมาพนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการได้ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา

นัดสอบคำให้การนักข่าวฮ่องกง คดีครอบครองเสื้อเกราะ จำเลยให้การปฏิเสธ

วานนี้ (12 ต.ค. 2558) เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดสมุทรปราการ นัดสอบคำให้การคดีนักข่าวฮ่องกงครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยให้การปฏิเสธ และกำหนดวันนัดพร้อมวันที่ 16พ.ย. 2558 เวลา 09.00 น.

วันที่ 12 ต.ค. 2558 ศาลจังหวัดสมุทรปราการ นัดสอบคำให้การนายควาน ฮอก จุน นักข่าวชาวฮ่องกง จากเหตุการนำเสื้อเกราะซึ่งติดข้อความว่า “Press”เข้ามาในประเทศไทย ระหว่างทำข่าวการระเบิดที่แยกราชประสงค์วันที่ 17 ส.ค. 2558 โดยนายควาน ฮอก จุนถูกควบคุมตัวที่สนามบินสุวรรรณภูมิ ขณะกำลังจะเดินทางกลับฮ่องกงเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2558 ที่ผ่านมา

อัยการส่งฟ้องคดี ‘นักข่าวฮ่องกง’ ครอบครองเสื้อเกราะแล้ว

วานนี้ (9 ต.ค.58) พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการได้ยื่นฟ้องคดีของนายควาน ฮอก จุน (Kwan Hok-chun) นักข่าวประจำสำนักข่าว ดิ อินนิเชี่ยม มีเดีย ฮ่องกง (The Initium Media Hongkong) ในข้อหามียุทธภัณฑ์ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ โดยศาลได้นัดสอบคำให้การจำเลยในวันจ้นทร์ที่ 12 ต.ค.นี้ เวลา 9.00 น.

ก่อนหน้านี้ นายควาน ฮอก จุน นักข่าวชาวฮ่องกง ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อทำข่าวกรณีระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 58 และทางสำนักข่าวได้มอบเสื้อเกราะซึ่งมีคำว่า PRESS จำนวน 1 ตัว ให้ใช้เพื่อความปลอดภัย แต่เขากลับถูกควบคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 58 ขณะกำลังจะเดินทางกลับประเทศ ด้วยเหตุที่มีเสื้อเกราะดังกล่าวไว้ในครอบครอง โดยนายควานได้ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวน และศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

นายควาน ฮอก จุน หลังถูกควบคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ (ภาพโดยสำนักข่าว AP)

ในคำฟ้อง ระบุว่าจำเลยกระทำความผิดตามพรบ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 มาตรา 4, 5, 6, 7, 15, 34, 42 ประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงวันที่ 30 พ.ย. 2550 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32 และ 33 โดยพนักงานอัยการขอให้ศาลสั่งริบเสื้อเกราะป้องกันกระสุนของกลางด้วย

ในวันเดียวกัน ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้เดินทางไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม หลังทราบว่าพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้อัยการไปเมื่อวันที่ 6 ต.ค. แต่ทางทนายความไม่พบกับพนักงานอัยการเจ้าของสำนวน จึงได้ยื่นหนังสือที่งานรับหนังสือและคำร้องแทน และได้ทราบในเวลาต่อมาว่าทางอัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลไปแล้ว

หนังสือขอความเป็นธรรมระบุว่า นายควานไม่ได้มีเจตนาจะกระทำความผิด แต่ได้นำเสื้อเกราะเข้ามาในประเทศไทยเพื่อความปลอดภัยเท่านั้น และเป็นเสื้อเกราะสำหรับสื่อมวลชน มีไว้เพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิตและร่างกายขณะปฏิบัติหน้าที่ภาคสนาม ไม่ได้จะนำมาใช้เพื่อการสงครามหรือกระทบต่อความมั่นคงแต่อย่างใด ไม่ถือว่าเป็นความผิดตามพรบ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ จึงขอให้พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี  แต่ทางพนักงานอัยการก็ได้ส่งฟ้องคดีไปก่อนแล้วในวันเดียวกันกับที่ทนายยื่นหนังสือนี้

ก่อนหน้านี้ภายหลังการจับกุมนายควาน ทางสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่าเสื้อเกราะและหมวกนิรภัยไม่ใช่อาวุธ และผู้สื่อข่าวไม่สมควรได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น ที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศต่างมีนโยบายให้ผู้สื่อข่าวใส่เสื้อเกราะโดยเปิดเผยในเวลาลงทำงานภาคสนามที่มีอันตราย โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์ปี 2553 ที่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศเสียชีวิตถึง 2 ราย ยิ่งทำให้เห็นว่าสิ่งป้องกันเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น จึงเรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิกการตั้งข้อหาทางอาญาต่อนายควาน และทำงานร่วมกับสมาคมสื่อในประเทศไทยเพื่อยกเลิกการตั้งความผิดทางอาญาต่อการมีเสื้อเกราะ หมวกนิรภัย และอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ ในครอบครอง

ศาลอนุญาตนักข่าวฮ่องกงออกนอกประเทศ หลังตำรวจขอฝากขังครั้งที่ 3

17 ก.ย.58 ศาลจังหวัดสมุทรปราการมีคำสั่งอนุญาตให้ ควาน ฮอก จุน นักข่าวฮ่องกง ผู้ต้องหาคดีครอบครองเสื้อเกราะเดินทางออกนอกประเทศ และให้เดินทางกลับมารายงานตัวภายในวันที่ 29 ก.ย.58

ก่อนหน้านี้ในวันที่ 16 ก.ย.58 พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 17 – 28 กันยายน 2558 ต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ โดยอ้างเหตุผลว่า พนักงานสอบสวนยังทำการสอบสวนไม่เสร็จ ยังต้องสอบพยานอีก 2 ปาก รอผลตรวจของกลาง และผลการตรวจสอบลายนิ้วมือ ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขัง