อัยการทหารฟ้อง ม.112 ผู้ต้องหาคดีวางแผน “BIKE FOR DAD” แล้ว

ทนายความในคดี “ป่วน BIKE FOR DAD” เผยแจ้งลูกความถูกสั่งฟ้องตาม ม.112 แล้ว ด้านลูกความเสียใจที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่คิดว่าจะถูกสั่งฟ้องเพราะไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าได้กระทำความผิดเลย

23 ก.พ.59 น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความเข้าเยี่ยมนายณัฐพล ณ วรรณ์เล นายวัลลภ บุญจันทร์ นายวีรชัย ชาบุญมี ที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ถนนพระราม 5 เพื่อแจ้งให้ลูกความทราบว่า อัยการศาลทหารกรุงเทพสั่งฟ้องในคดีของพวกตนว่ามีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 แล้ว

ทั้งสามคนถูกล่าวหาว่าร่วมกันวางแผนป่วนกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อหรือ “Bike for Dad” ซึ่งถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ละร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชนและเผยแพร่ข้อมูลหรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยอยู่รู้แล้วว่าเป็นเท็จตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14

หลังจากแจ้งเรื่องดังกล่าวและได้พูดคุยกับลูกความทั้งสามคนแล้ว น.ส.เบญจรัตน์กล่าวกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า ลูกความทั้งสามคนเสียใจที่ถูกอัยการศาลทหารสั่งฟ้อง เพราะลูกความของตนยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการกระทำความผิดเลย

น.ส.เบญจรัตน์กล่าวถึงข้อมูลที่หนึ่งในผู้ต้องหาแจ้งให้ทราบว่า มีผู้ต้องหาคนหนึ่งถูกหลอกให้มามอบตัวเพื่อเป็นพยาน จึงเชื่อและเข้ามารายงานตัวตามคำสั่งเรียก แต่ไม่คิดว่าสุดท้ายจะต้องกลายเป็นผู้ต้องหาในดคีนี้ด้วย แล้วผู้ต้องหาที่เข้าพบก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เสียใจที่ตัวเองต้องได้รับความอยุติธรรม ถูกสั่งฟ้องในความผิดที่ไม่ได้ก่อ แต่ยังเชื่อว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมแก่พวกตน

สำหรับบรรยากาศในการพูดคุยนั้นน.ส.เบญจรัตน์กล่าว่า ขณะพูดคุยกับลูกความยังคงมีเจ้าหน้าที่ทหารสองนายมายืนควบคุมอยู่ด้วย ซึ่งผิดหลักการที่ทนายความสามารถอยู่กับลูกความได้โดยลำพัง ดังนั้นการที่มีเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ด้วยขณะพูดคุยกับลูกความ ทำให้ลูกความไม่มีเสรีภาพที่จะแจ้งข้อมูลหรือแสดงความเห็นใด ๆ แก่ทนายได้ตามกระบวนการยุติธรรม

“ผู้ต้องหาทุกคนบอกกับทนายว่า ถ้าคดีนี้พวกเขาทำความผิดจริงจะออกมาสารภาพและพร้อมยอมรับความผิดเลย แต่นี้พวกเขาไม่ได้ทำอะไร พอจะรับสารภาพก็ไม่รู้จะหาหลักฐานหรือพยานอะไรมาบ่งชี้ว่าพวกเขามีความผิดตามที่อัยการสั่งฟ้อง แล้วถ้ามีหลักฐานจริง ๆ ทำไมผู้ต้องหาถึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์”  ทนายความฝ่ายผู้ต้องหากล่าว

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ประมวลเหตุการณ์คดีผู้ต้องหาวางแผนป่วนกิจกรรม Bike for Dad

ทนายของผู้ต้องหาเตรียมป่วน Bike for Dad รับทราบข้อกล่าวหาที่กองปราบฯ ยันตนแค่ทำตามหน้าที่ทนาย

ใส่ความเห็น