ศาลทหารพิพากษาจำคุกคดีครอบครองระเบิด 10 ปี

8 เม.ย. 2559 ศาลทหารกรุงเทพพิพากษาหนึ่งในจำเลยคดีครอบครองระเบิดหลังรัฐประหาร และเป็นจำเลยในคดีระเบิดบรรทัดทองซึ่งกำลังสืบพยานอยู่ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ให้จำคุก 10 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษเหลือ 5 ปี

10.00 น. พ.อ.ธนะรัช สระเงิน, น.อ.วีรยุทธ์ โรจรุจิพงษ์ รน., และ พ.อ.โฆษนันทน์ สุทัศน์ ณ อยุธยา ตุลาการศาลทหารออกนั่งพิจารณาคดี ที่นายอภิชาต พวงเพ็ชร, นายเจริญ พรมชาติ, และนายณัฐพรรณ์ หลุ่มบางล้า ถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย, ร่วมกันมีซึ่งยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต, และร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งและประกาศ คสช. ไม่นำเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามนำส่งมอบต่อนายทะเบียนท้องที่ จากการมีระเบิด RGD5 ไว้ในครอบครองตามฟ้องจำนวน 20 ลูก แต่ตำรวจตรวจยึดไว้เป็นของกลางได้เพียง 4 ลูก

หลังจากนายอภิชาต พวงเพ็ชร จำเลยที่ 1 กลับคำให้การเป็นรับสารภาพเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2559 ศาลมีคำสั่งในวันที่ 8 เม.ย. 2559 ให้จำหน่ายคดีของจำเลยที่ 2 และ 3 ได้แก่ นายเจริญ พรมชาติ และนายณัฐพรรณ์ หลุ่มบางล้า ตามลำดับ ให้โจทก์ฟ้องใหม่ภายใน 15 วัน ก่อนอ่านคำพิพากษาเฉพาะนายอภิชาติที่รับสารภาพเท่านั้น

ในกรณีของอภิชาตมีการกระทำผิด 2 กรรม คือ ความผิดฐานร่วมกันครอบครองระเบิด RGD5 จำนวน 20 ลูก และไม่นำระเบิดส่งมอบให้นายทะเบียนท้องที่ตามคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 37/2557

ในกรณีร่วมกันครอบครองระเบิดมีลักษณะความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท  คือ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 55 และ 78 ศาลลงโทษจำคุกจำเลย 8 ปี ส่วนความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 37/2557 ให้จำคุก 2 ปี รวมเป็น 10 ปี แต่เนื่องจากจำเลยรับสารภาพจึงลดโทษลงกึ่งหนึ่ง เหลือโทษจำคุก 5 ปี

สำหรับคดีครอบครองระเบิด RGD5 นี้ มีความเชื่อมโยงกับคดีระเบิดที่ชุมนุม กปปส. บริเวณ ถ.บรรทัดทอง เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2557 โดยจำเลยในคดีนี้ 2 ราย คือ อภิชาตและณัฐพรรณ์ ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีระเบิดบบรรทัดทอง ซึ่งปัจจุบันกำลังสืบพยานอยู่ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้