สืบพยาน พงส.กองปราบ คดีจิตราไม่รายงานตัวตามคำสั่งคสช. เห็นว่าจำเลยติดต่อรายงานตัวสถานทูตถือว่าปฏิบัติหน้าที่แล้ว

11 ก.พ. 2559 ศาลทหารกรุงเทพนัดสืบพยาน คดีที่จิตรา คชเดช นักเคลื่อนไหวและที่ปรึกษาสหภาพแรงงาน ฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ที่ 44/2557 พยานโจทก์ปากพนักงานสอบสวนไม่ทราบว่าขณะมีคำสั่ง จำเลยอยู่ต่างประเทศ และเห็นว่าการที่จำเลยได้พยายามติดต่อรายงานตัวต่อสถานทูตไทยที่ใกล้ตัวนั้น จำเลยได้ปฏิบัติตามหน้าที่แล้ว สืบพยานนัดต่อไปวันที่ 25 เม.ย. 2559

คดีนี้สืบเนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งที่ 44/2557 เรียกบุคคลมารายงานตัว จิตราซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกเรียกขณะนั้นติดภารกิจอยู่ที่ประเทศสวีเดน ได้ติดต่อสถานทูตไทยในสวีเดนเพื่อรายงานตัวแล้ว แต่กลับถูกจับกุมเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันที่ 13 มิ.ย. 2557

ร.ต.ท.ชลิต มณีพราว พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม พยานโจทก์ เบิกความว่า เนื่องจาก พ.ท. บุรินทร์ ทองประไพ (ยศในขณะนั้น) นายทหารพระธรรมนูญ มาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. เพื่อดำเนินคดี หนึ่งในนั้นคือจำเลย เขาเป็นผู้ลงบันทึกประจำวัน ตามคำร้องทุกข์ของ พ.ท.บุรินทร์ และลงชื่อในบันทึกประจำวันดังกล่าว

คดีนี้เหตุเกิดที่สโมสรกองทัพบก ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ สน.นครบาลสามเสน ร.ต.ท. ชลิต เห็นว่าเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคงและเป็นที่สนใจของประชาชน ผู้บัญชาการจึงมีคำสั่งให้สอบสวนได้  โดย ร.ต.ท. ชลิตให้การว่า อำนาจสอบสวนของเขาเป็นไปตามระเบียบกองปราบปราม

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ พ.ท.ชัยยง วงสวรรค์ ซึ่งมีหน้าที่รับรายงานตัวของบุคคลที่ถูกเรียกโดยคำสั่ง คสช. ซึ่ง พ.ท.ชัยยง ให้การว่า จำเลยไม่มารายงานตัวตามกำหนดเวลา
ในส่วนนี้

ทั้งนี้ ร.ต.ท. ชลิต เห็นว่า เมื่อมีการยึดอำนาจมีการเรียกบุคคลเข้ารายงานตัว บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องไปรายงานตัว แต่หากอยู่ในที่ห่างไกลก็ต้องชี้เเจงกับหน่วยงานของรัฐที่ใกล้เคียงที่สุด ซึ่งในคดีนี้ ขณะถูกเรียกตัว จำเลยอยู่ต่างประเทศ เเละเมื่อจำเลยทราบจึงรีบเเจ้งต่อสถานทูตไทย ซึ่งถือเป็นหน่วยงานของรัฐที่อยู่ใกล้เคียงแล้ว ร.ต.ท. ชลิต เห็นว่าจำเลยได้ปฏิบัติตามหน้าที่เเล้ว

ในการสืบพยานปากนี้มีผู้สังเกตการณ์จากสถานทูตสวิสเข้าร่วมฟังด้วย สำหรับนัดหมายครั้งต่อไปในคดีนี้ ศาลนัดสืบพยานโจทก์ พนักงานสอบสวน ร.ต.ท. ไพรฑูรย์ จ้อยสระคู วันที่ 25 เม.ย. 2559

 

ใส่ความเห็น