พยานผู้ต้องหาย้ำ ไปอุทยานราชภักดิ์ตามสิทธิของประชาชน

พยานฝ่ายผู้ต้องหาคดี ‘นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง’ ย้ำพฤติการณ์กลุ่มผู้ต้องหาในวันนั่งรถไฟไม่ส่อไปสู่ความวุ่นวายทางการเมืองตามข้อกล้าวหา เผยไปอุทยานราชภักดิ์ตามสิทธิของประชาชนเท่านั้น

9 ก.พ. 2559 นายณัฐภัทร อัคฮาค ในฐานะพยานฝ่ายผู้ต้องหา เข้าให้การกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจรถไฟธนบุรี กรณีที่นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ ‘จ่านิว’, นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว, นางสาวชนกนันท์ รวมทรัพย์, นายกรกช แสงเย็นพันธ์, นายอานนท์ นำภา และพวกรวม 11 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาฐานฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 จากกิจกรรม ‘นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง’ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2558 ว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับทราบข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า มีการทุจริตเกี่ยวกับการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงไปแจ้งความไว้กับกองบังคับปราบปรามว่า มีการทุจริตเกี่ยวกับการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ หลังจากนั้นจึงต้องการไปยังอุทยานราชภักดิ์ โดยไม่ได้นัดแนะและกำหนดวันกับบุคคลใดอย่างเป็นทางการ เพียงแต่บอกกันให้ทราบเท่านั้น และไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะเคลื่อนไหวทางการเมือง

พยานฝ่ายผู้ต้องหากล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นเห็นใบประกาศเกี่ยวกับการเดินทางไปยังอุทยานราชภักดิ์ ที่จะเดินทางไปในวันที่  7 ธ.ค. 2558 เขาจึงตัดสินใจที่จะไปอุทยานราชภักดิ์ในวันดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึงก็พบกับกลุ่มคนที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาและได้พูดคุยกันในเรื่องทั่วไป

ทั้งนี้ ณัฐภัทรให้การอีกว่า ระหว่างเดินทางโดยรถไฟจากสถานีรถไฟธนบุรีไปยังสถานีรถไฟต่าง ๆ ก็ไม่พบว่ามีพฤติการณ์ใด ๆ ที่จะนำไปสู่ความวุ่นวายจนนำไปสู่ความรุนแรง หรือส่อไปว่าเป็นการชุมนุมทางการเมือง เพียงแต่เป็นการไปเยี่ยมชมอุทยานราชภักดิ์เท่านั้น โดยส่วนตัวเขาเห็นว่า การไปอุทยานราชภักดิ์ของตนเองไม่ได้ขัดคำสั่งของ คสช. และใช้สิทธิของประชาชนในการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ตามเท่าที่ไม่ได้ละเมิดกฎหมาย

“ขณะที่ผมอยู่บนรถไฟก็ไม่ได้มีความวุ่นวายอะไร จนกระทั่งมีการหยุดขบวนรถไฟที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง แล้วมีเจ้าหน้าที่แต่งชุดทหารและตำรวจเข้ามาฉุดกระชากกลุ่มคนที่อยู่บนรถไฟนั่นล่ะ ความวุ่นวายก็เกิดขึ้น ผมถามเจ้าหน้าที่ว่า หยุดรถไฟทำไม ยังไม่ได้คำตอบก็ถูกควบคุมตัวและใช้กำลังกับผมรุนแรงเกินกว่าเหตุ กักตัวผมไว้กว่าจะปล่อยตัวก็สามทุ่มกว่าแล้ว”  นายณัฐภัทรกล่าว